

หลินกลับมาจากทริปสวีเดน-นอร์เวย์ ได้เกือบอาทิตย์นึงแล้วค่ะ
เห็นบทความเก่า Gourmand – World Cookbook Awards ที่โพสต์ไว้ ยังเป็นเนื้อหาช่วงเริ่มต้น ว่าหนังสือเข้ารอบ Winners by Countries และ ได้รับเชิญให้ไปที่กัมพูชาและสวีเดน
วันนี้เลยมาเขียนบทความนี้เพิ่ม เพื่อให้เป็นเรื่องราวปัจจุบัน
เดือนพฤษภาคม 2023 หลินเดินทางไปร่วมงาน Umeå Food Symposium 2023
Umeå อยู่ทางตอนเหนือของสวีเดน เป็นเมืองเล็ก ๆ ที่น่ารักมาก การเดินทางต้องบินไปลงที่สตอกโฮล์ม แล้วบินต่ออีก 1 ชั่วโมง


หลินจองห้องพักผ่าน airbnb ตั้งใจให้มีเตาอบ
ห้องพักจริงดีกว่าที่เห็นในรูปมากเลย มีสิ่งอำนวยความสะดวกให้ครบ เดิน 15 นาทีก็ถึง city center










นวดโดไว้ตอนเช้า กะจะ bulk ในตู้เย็น ออกไปห้องสมุดแล้วค่อยกลับมาขึ้นรูป แต่ยังไม่ทันได้ออกจากห้องพักเห็นโดพองแล้ว เลยเอามาขึ้นรูปก่อน




ที่ว่าไปห้องสมุด คือ วันที่ 25-27 พ.ค. เป็นวันงาน Gourmand Awards แต่วันที่ 24 มีงานย่อยเป็นพิธีเปิดจัดที่ห้องสมุดของเมือง ซึ่งเป็นสถานที่จัดแสดง cookbook ของเหล่า winners ในปีนี้ และ มีหนังสือที่รับรางวัลในปี 2022 ด้วย













กลับถึงห้อง ค่อยมาอบขนมปัง หลินย้ายโดออกจากตู้เย็น มาพรูฟต่อข้างนอกอีกพักใหญ่ ไม่ได้ดัดแปลงเตาอบเพื่อสร้างไอน้ำ เกรงว่าจะทำให้เตาอบเค้าพัง เลยแค่ลูบน้ำบนผิวโดและใช้มีดหั่นขนมปังกรีด






ส่วนขนมปังแผ่นล่าง ซื้อมาค่ะ เป็นขนมปังไรย์ใส่ผลไม้และธัญพืช รสชาติดีเลย
(แอบนอกเรื่อง … พอมาถึงสวีเดน แค่ที่สนามบิน หลินก็ประทับขนมปังไรย์ของที่นี่แล้ว ถึงแม้จะเนื้อแน่นแต่ก็หอมนุ่ม เคี้ยวเพลินมาก)




(กลับเข้าเรื่องงานหนังสือ) ในวันถัดไป 25 พ.ค. ไปที่ Umeå Folkets Hus สถานที่จัดงาน Gourmand Awards



ท่านประธาน Edouard Cointreau กล่าวเปิดงาน จากนั้นบรรดาเหล่านักเขียนก็สลับกันขึ้นเวที วันแรกเน้นหนังสือที่เกี่ยวกับงานวิจัยต่าง ๆ แนวโน้มของโลก สิ่งแวดล้อม ความยั่งยืน สุขภาพ วัฒนธรรม ฯลฯ
งานแนะนำหนังสือ มีทั้งช่วงเช้าและบ่าย ตั้งแต่ 9.00 – 17.00 น.
หลินไม่ได้อยู่ร่วมงานตลอดวัน และเลือกไปฟังช่วงที่น่าสนใจ








วันที่ 26 พ.ค. งานวันนี้เป็นหนังสือ Drink Cultures และ ตอนเย็นประกาศรางวัล




ยังมีรางวัลของหมวดอื่น ๆ อย่าง charity book, world food television


วันที่ 27 พ.ค. วันงานของ Food Cultures ทั้งช่วงเช้าและบ่าย
15:30 น. เป็นเวลาที่หลินต้องขึ้นเวทีแนะนำหนังสือ
และ 17:00 น. เริ่มประกาศรางวัล
จาก 2 วันที่ผ่านมา หลินเก็บบรรยากาศงาน ดูอารมณ์โดยรวม งานประกาศรางวัลของเมื่อวาน ช่วยให้คุ้นเคยและลดความประหม่าได้พอสมควร งานค่อนข้างเป็นกันเอง กระชับฉับไว ไม่ได้มีพิธีรีตองเยอะ นักเขียนหลายท่านก็เฮฮาดีด้วย
ก่อนถึงคิวของตัวเอง ก็ฟังท่านอื่น ๆ และ นับถอยหลัง …





ยิ่งใกล้คิวของตัวเอง หลินพยายามคุมสติเอาไว้ ถึงแม้จะไม่ได้แสดงออกมาเป็นท่าทางว่าตื่นเต้น แต่มือเย็นมากในตอนนั้น เย็นเหมือนเอามือไปจุ่มน้ำแข็งมา แต่ไม่ได้บอกคนใกล้ตัวเลย กลัวว่าจะตื่นเต้นกันไปหมด และทำให้หลินขาดสติยิ่งขึ้น
ถึงเวลาแล้วค่ะ … พยายามเป็นตัวเองให้มากที่สุด ลดความกังวลในเรื่องภาษา และพูดออกมาจากใจ

















เค้าให้พูดไม่เกิน 10 นาที แต่พูดเกินไปเยอะเลย (คือต้องแนะนำ 2 เล่มด้วย) ในช่วงครึ่งหลังเชฟผู้ชายข้างล่างทำท่าเร่งให้จบเร็วขึ้น ขออภัยมากกกกจริง ๆ ค่ะ
หลังพูดเสร็จ รู้สึกโล่งใจมากเลย … หน้าที่เสร็จสิ้นแล้ว
จากนั้น ก็เป็นงานประกาศรางวัล มีหนังสือมากมายหลายประเภทที่ได้รับรางวัล ใช้เวลาอยู่นานในที่สุดบนจอก็ขึ้นภาพนี้


เพียงแต่กล่าวขอบคุณท่านประธาน และขอยืนมองไปรอบ ๆ เพื่อจำเรื่องราวในวันนี้เอาไว้ และขอบคุณทุกท่านอีกครั้ง




ถือเป็นเรื่องราวที่น่ายินดีและจดจำไว้ ใน certificate เขียนไว้ว่า
“The definitive book on sourdough in Thai, but not only : it is an extremely well structured, well documented and sublimely laid out masterpiece. Congratulations for the huge research and the very own style of Sakullak Laisuwannchat.”
“ตำราขนมปังยีสต์ธรรมชาติฉบับสมบูรณ์นี้ไม่เพียงแต่จะประพันธ์เป็นภาษาไทยเท่านั้น แต่ยังเป็นผลงานชิ้นเอกที่วางโครงสร้างได้อย่างดีเยี่ยม เก็บรายละเอียดเนื้อหาอย่างครบถ้วน อีกทั้งจัดเรียงได้อย่างสุดยอด ขอแสดงความยินดีกับคุณสกุลลักษณ์ ไล้สุวรรณชาติ ที่ทำงานค้นคว้าวิจัยอย่างมากมายและมีรูปแบบเป็นของตัวเอง”
(เครดิต แปลไทย โดยสถานทูตสวีเดน, กรุงเทพ)

ก่อนหน้าที่จะขึ้นแนะนำหนังสือ ได้มีโอกาสคุยกับท่านประธาน Edouard Cointreau
หลินสงสัยว่าเนื้อหาหนังสือเป็นภาษาไทยแล้วทาง Gourmand ใช้วิธีไหนในการพิจารณา
เค้าตอบว่า ดูจากหัวข้อต่าง ๆ การเรียบเรียงเนื้อหา โครงสร้าง สูตร ก็มองออกถึงความตั้งใจทำงานของทั้งทีม เค้าว่าหนังสือ cookbook บางเล่ม เพียงแค่หยิบตรงนั้นตรงนี้มาประกอบรวมกัน หรือสูตรอาหารก็ใช้วัตถุดิบหลักเหมือนเดิมแต่ปรับวัตถุดิบเสริมนิดหน่อย แต่พอเห็นหนังสือของเราแล้ว รับรู้ถึงความใส่ใจ เห็นตัวตนของคนเขียน และขอบคุณที่ตั้งใจทำหนังสือนี้ออกมา พร้อมทั้งบอกว่า congratulations และปิดท้ายว่า เค้าชอบหนังสือที่ทำให้คนอ่านมีความสุข *ยังบอกด้วยว่า พอให้คนอื่นดูหนังสือชุดนี้แล้วบอกว่าเป็นของคนไทย เค้าประหลาดใจกัน*
หลินฟังแล้วขนลุก ประสบการณ์ที่ยาวนานของคุณ Edouard ถึงแม้จะไม่เข้าใจภาษาไทย แต่ก็รับรู้ถึงความตั้งใจของพวกเราที่จะทำหนังสือชุดนี้ออกมาให้ดีที่สุด
พลังงานเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นบวกหรือลบ เราสื่อสารกันได้จริง ๆ

หลังจากแนะนำหนังสือและลงจากเวที ได้พบกับนักเขียนท่านหนึ่งเดินมากล่าวชื่นชมว่า present ได้ดี บางท่านก็บอกว่าอยากซื้อหนังสือ ตอนอยู่ที่สนามบินมีนักเขียนชาวรัสเซียเดินมาทักบอกว่าอยากมาเรียนทำขนมปังด้วย
ก็ช่วยสร้างความอบอุ่นใจให้ตัวเองพอสมควร ว่าเราได้ทำหน้าที่การงานมาอย่างถูกต้องและเหมาะสม
และเมื่องานจบไปแล้ว รับรางวัลไปแล้ว เราก็กลับมาทำหน้าที่เหมือนเดิม ทำงานแบ่งปันประสบการณ์ในการทำขนมปัง แลกเปลี่ยนและเรียนรู้ ใช้ชีวิตและพัฒนา (สติและจิตใจ) ตัวเองต่อไปค่ะ