Book Journey

เช้าวันนี้ 1 พ.ค. 2565 ตื่นขึ้นมา หลินนึกอยากจะบันทึกเรื่องราวเกี่ยวกับการทำหนังสือเล่มแรกเอาไว้ เพราะถ้าผ่านไปนานกว่านี้ คงจำรายละเอียดไม่ได้ว่ากว่าจะออกมาเป็นหนังสือ เราทำอะไร เจอเหตุการณ์อะไรไปบ้าง

จุดเริ่มต้นของความคิดที่อยากเขียนหนังสือ เพราะ ทั้งหลินและสามีอายุเลยวัยกลางคนไปแล้ว เป็นจังหวะชีวิตที่ไม่ใช่ช่วงเวลาตักตวงความรู้ แต่เป็นช่วงที่ … ถ้ามีความรู้อยู่กับตัวก็ไม่ควรจะเก็บเอาไว้และสูญหายไปกับตัวเองในวันที่ไม่ได้สอนทำขนมปังแล้ว สิ่งใดที่มีประโยชน์ต่อผู้อื่นก็ควรจะแบ่งปันออกไป

การเริ่มก้าวแรกในสิ่งที่ไม่เคยทำนั้นยากเสมอ หลินซื้อ e-book แนะนำวิธีเขียนหนังสือมาอ่าน ปรึกษาเพื่อน ๆ และ เริ่มเขียนเนื้อหาในหนังสือออกมาให้ได้ก่อน ไม่ต้องคิดอะไรไปไกลในสิ่งที่ตัวเองทำไม่เป็น (เกี่ยวกับงานผลิตหนังสือ) การคิดเยอะจะทำให้กังวลไปหมด และ ไม่ได้ลงมือทำ
1 ม.ค. 2564 จึงเริ่มงานเขียน กำหนดเนื้อหาหลักที่จะอยู่ในหนังสือ โครงร่าง หมวดหมู่ แล้วค่อยลงรายละเอียดเข้าไปในแต่ละหัวข้อ

พอดีว่าตรงกับการระบาดของ covid-19 ที่มีการ lock down ต้องหยุดสอนบ่อย จึงมีเวลาได้ทดลองสูตรขนมปัง เป็นช่วงเวลาที่สนุกมาก ๆ เพราะได้ขนมปังบ่อย หลากหลายสูตร และ เป็นช่วงที่ทำขนมปังเจ๊งบ่อยกว่าปรกติ นวดเจ๊ง หมักเจ๊ง อบเจ๊ง มีครบ เหตุเพราะได้ทดลองใช้วัตถุดิบที่ไม่ชิน บางทีก็ออกแบบสูตรไม่สมดุล

สูตรขนมปังที่ทดลอง
บางสูตร จดเรื่องระยะเวลาการทำงาน เพื่อเช็คว่าใส่หัวเชื้อพอดีไหม
เวลาทำใส่พิมพ์ ก็ต้องทดลองโดหลาย ๆ ขนาด
สูตรนี้ คือ ทำเจ๊ง 2 รอบ
สูตรนี้ รอบแรกไม่อร่อย พอทดลองอีกครั้งเลยจดว่า OK! อร่อยมาก

เวลาเขียนเนื้อหาจะเขียนไปเรื่อย ๆ มีความรู้อะไรที่หลั่งไหลออกมาก็เขียนไป ไม่ย้อนกลับไปอ่านทบทวน ยังไม่ต้องปรับแต่งให้เป็นภาษาสวยงาม ที่สำคัญจะรอให้จิตใจปลอดโปร่งเพื่อเขียนในสิ่งที่ออกมาจากความรู้ข้างใน หากช่วงไหนเริ่มรู้สึกว่ากำลังพยายามเขียนมากเกินไป ใจไม่พร้อมจะหยุดพักทักที

เมื่อได้เนื้อหาเกิน 70% จึงเริ่มคิดถึงงานผลิต ที่ต้องถ่ายรูป จัดรูปเล่ม ได้ติดต่อหลายท่านที่รู้จักเพื่อหาทีมงานมาทำหนังสือให้ ตั้งใจไว้ว่า อยากร่วมงานกับทีมงานมืออาชีพที่มีประสบการณ์ทำหนังสืออยู่แล้ว เพื่อให้งานออกมาดีและราบรื่น

ใช้เวลาเขียนประมาณ 1 ปี ตามที่ออกแบบไว้ ทำให้ได้เนื้อหาเยอะมากจนตัวเองตกใจ จำนวน 369 หน้า ที่ยังมีแต่ตัวหนังสือ ตารางสูตร กราฟ ยังไม่รวมรูปภาพ พอพิมพ์ใส่กระดาษ A4 แบบพิมพ์หน้าเดียว ได้เป็นกระดาษปึกหนามากเลยค่ะ

2 รูปนี้ ตอนพิมพ์ออกมาทบทวน อ่านในกระดาษ รอบที่ 3

เนื้อหามากมายขนาดนี้ พอรวมรูปภาพขนมปังแล้ว ต้องได้หนังสือไม่ต่ำกว่า 500 หน้าแน่ ๆ
คุณก้อย แห่ง Play Plearn : เพลย์ เพลิน ได้ให้คำแนะนำหลายอย่าง ทำให้พวกเรา (หลินและสามี) รับรู้ว่า การทำหนังสือ sourdough bread นี้ ไม่ใช่งานเล็ก ๆ แล้ว ทุกอย่างใหญ่โตขึ้นตามเนื้อหาที่มากขึ้น

พอเป็นงานที่ใหญ่ขึ้น เราคุยกันว่าถ้าทำกันเอง ชักจะไม่สนุกแล้ว ในตอนเขียนหนังสือและคิดสูตร หลินมีความสุขมาก ๆ แต่หนังสือชุดใหญ่แบบนี้ เราอยากมีเพื่อนร่วมเดินทางมากกว่าการทำงานเพียงลำพัง

คนแรกและคนเดียวที่นึกถึง คือ คุณแวนดา และ คุณไมค์ แห่ง KitchenWorld Marketplace ที่เมื่อหลินโทรไปเล่าเรื่องราวให้ฟังและเชิญชวน น้องแวนดาตอบตกลงทันทีแบบไม่ถามถึงผลประโยชน์หรือเรียกร้องเงื่อนไขใด ๆ
จากที่น้องแวนดารู้จักกับพี่พล ตัณฑเสถียร (ติดตามผลงานพี่พลได้ที่ PHOLFOODMAFIA – พลพรรคนักปรุง) พวกเราจึงได้คำแนะนำมากมายจากพี่พล และ ทำให้ได้รู้จักกับ คุณเอ๋ แสงปทีป แก้วสาคร ผู้เคยเป็นบรรณาธิการ นิตยสาร Health & Cuisine (ปัจจุบันนี้คุณเอ๋ มีงานสอน food stylist ให้ที่ Le Cordon Bleu และ ทำผลิตภัณฑ์น้ำมันหอมระเหย แบรนด์ Saengprateep)

คุณเอ๋ ผู้นำทีมจึงได้รวบรวมทีมงานมืออาชีพ ที่เคยร่วมงานกันในสมัยที่อยู่สำนักพิมพ์อมรินทร์ มาทำโปรเจคหนังสือนี้กัน เราได้
คุณต้น ร้าน Laliart coffee อดีต art director ของนิตยสาร room มาเป็น art director ผู้ออกแบบรูปเล่มหนังสือ
คุณวัฒน์ Wat Coolseen ที่มีผลงานระดับประเทศ อดีตช่างภาพ นิตยสาร Health&Cuisine มาเป็น Photographer
คุณปลา wanas.workspace อดีต Stylist Health&Cuisine และ นิตยสารแพรว มาเป็น Stylist
และ ยังมีน้อง ๆ ทีมงานของคุณวัฒน์ มาช่วยงานถ่ายรูป และ งาน graphic ต่าง ๆ

เนื่องจากหลินมีสูตรขนมปัง แบ่งเป็น 6 หมวดหมู่ จำนวน 42 สูตร (แน่นอนว่าทุกสูตรเป็น sourdough bread) งานถ่ายรูปจึงยาวเหยียด ถึง 11 วัน คุณวัฒน์บอกว่า นับเป็นงานใหญ่งานหนึ่งเลย และ ทีมงานทุกท่านรู้สึกยินดีที่ได้กลับมาทำงานหนังสือ จากที่หยุดทำกันไปนานหลายปี เพราะ ปัจจุบันเปลี่ยนเป็นสื่อออนไลน์กันหมดแล้ว

งานถ่ายรูปเริ่มต้นวันที่ 1 ก.พ. 2565 แบ่งเป็น 4 ช่วง คือ วันที่ 1-3 / 7-10 / 13-15 และ 17 ก.พ. เมื่อทีมงาน production พร้อมแล้ว แต่ลำพังหลินกับสามีเพียงสองคน ก็ไม่มีทางทำสำเร็จแน่นอน

ที่สตูดิโอ Lynn Loaf มีแต่อุปกรณ์ที่ใช้สำหรับสอน ไม่มีพร๊อพสำหรับถ่ายรูปเลย จึงได้ยืมอุปกรณ์มากมายจาก Kitchen World และ คุณโซ่ จาก Hearts and Hands เชียงใหม่ ได้ติดต่อเข้ามาเพื่อส่งอุปกรณ์ที่ทำจากไม้สักมาให้ยืม

แต่ที่สำคัญกว่าอุปกรณ์คือ ทีมงาน TA (teacher assistant) ของ Lynn Loaf ทุกคนที่สลับกันมาช่วยงานอบขนมปัง ตั้งแต่ช่วยเตรียมวัตถุดิบ ทำ levain รวมถึงงานจัดการโด เพราะทำคนเดียวไม่ทันแน่ ๆ ทีมงานของเรา มี 9 คน ดังนี้
น้องแตง ขนมปังบ้านบ้าน homemade bread
น้องเนิร์ส Yoshi’s Bread
พี่อางค์ Ang’s Sourdough bread and more
ครูน้องนุช ห้องเรียนขนมปัง Kurukuru baking class くるくるパン教室
น้องโบว์ Wanwisa Kruasophon
น้องพลอย Ploy Mongkoldao
น้องทราย Sarinya Chinungkul
คุณก้อย Loafbygoi-goi bakery
คุณอิ๊ก Ministry of bread

ก่อนเริ่มงาน หลินใช้เวลาพอสมควรในการวางแผน จัดลำดับการอบ วางแผนเตรียม levain และ วัตถุดิบต่าง ๆ

แผนงานทำ levain
แผนงานทำ levain
เช็ค stock วัตถุดิบที่ต้องใช้
พิมพ์สูตรทั้งหมด ที่ต้องอบ

วันแรกที่ได้เริ่มถ่ายรูป อะไร ๆ ก็ไม่เข้าที่เข้าทาง ไม่ชินกับจังหวะการถ่ายรูป ตื่นเต้นไปหมด จนแม้กระทั่งโดที่นวดรอไว้ 3 สูตรแรก ก็ทำงานไม่เป็นใจ ขนมปังที่อบวันแรก ไม่ดีเท่าที่เคยทำได้ในเวลาปรกติ ถึงกับที่หลินต้องอบใหม่เพื่อถ่ายซ่อม (สามีบอกว่าเห็นวันแรกแล้วเริ่มวิตก ไม่รู้ว่าต้องทำซ่อมกี่สูตร แต่ก็มีแค่สูตรเดียวเท่านั้นเองค่ะ)

ด้วยความสามารถของคุณวัฒน์ ช่างภาพ และ ทีมงาน เราได้รูปภาพสวยงามเป็นที่พอใจ ทำให้หลินรู้สึกเบาใจได้ว่าอีกเกือบ 40 สูตรที่เหลือ จะได้ทำได้ดี ถึงแม้มีอุปสรรคใด ๆ ก็มีหลายฝ่ายช่วยกันเพื่อปิดช่องโหว่ที่เกิดขึ้น ในวันต่อมาที่เริ่มคุ้นมือกัน หลินคุ้นกับจังหวะเสียงกดชัตเตอร์ งานถ่ายรูปก็ราบรื่นขึ้น ขณะเดียวกันทุกโดก็เป็นใจ ร่วมมือด้วยอย่างดี

พอเบาใจได้ช่วงเดียว ก็เจอปัญหาเรื่องตู้เย็นทำงานผิดปรกติอีก เพราะเราใช้งานตู้เย็นกันหนัก เปิดปิดประตูทั้งวัน ทำให้ตู้เย็นไม่เย็น แต่ก็ตลกดีที่ว่า กลางดึกในคืนที่ตู้เย็นมีปัญหา หลินตื่นมาแล้วทำอย่างไรก็นอนไม่หลับ เลยลงมาเปิดตู้เย็นดูโด พบว่าโดทุกกล่องที่หมักไว้ ฟูขึ้นอย่างมากแบบที่ถ้ารอจนเช้าตามเวลางานถ่ายรูป โดคง over ferment แน่นอน โชคดีที่เป็นการถ่ายทำช่วงท้าย ๆ ที่ไม่ต้องถ่ายรูปขั้นตอนการขึ้นรูปแล้วด้วย เลยนำโดออกมาขึ้นรูปและอบเสร็จก่อนที่ทีมงานจะมาถึง ….. งานนี้ ถือว่า สัญชาติญาณมาช่วยทันเวลา

ปัญหาตู้เย็นไม่เย็น ยังกระทบถึงงานอบวันสุดท้าย ที่เราทำขนมปังกัน 5 สูตร มีโดบางสูตรถูกหมักมากเกินไป ทำให้ขนมปังเปรี้ยวกว่าที่ต้องการ แต่เพราะเราใช้เพียงรูปภาพจึงไม่มีปัญหาอะไร เพียงแต่หลินรู้ว่ามีความผิดปรกติเกิดขึ้น

เอกสารทั้งหมดที่เกิดขึ้นในการทำหนังสือ แฟ้มบนซ้าย-ตอนคิดสูตรขนมปัง แฟ้มล่างซ้าย-แผนงานและสูตรที่อบจริงตอนถ่ายรูป ขวา-ต้นฉบับ
Day 1
Day 2
Day 3 เลิกดึกมากค่ะ ให้น้อง ๆ TA กลับบ้านไปก่อน
Day 4
Day 5
Day 6
Day 7
Day 8
Day 9
Day 10 อบขนมปังเป็นวันสุดท้าย หมวดขนมปังสุดท้าย เลยขอเปลี่ยนมุม
Day 11 วันนี้ไม่ได้อบขนมปัง แต่เก็บงานรูปภาพประกอบในส่วนอื่น ๆ

การได้ทำงานกับทีมงาน production ที่นำทีมโดยคุณเอ๋ และ ทีมงาน TA ของ Lynn Loaf เอง ทำให้หลินประทับใจในความเป็นมืออาชีพของทุกท่านมาก ถึงแม้จะมีความเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า จากการทำงานติดกันหลายวัน แต่เมื่อถึงบทที่จะต้องทำงานแล้ว ทุกคนเต็มที่ ไม่มีใครที่เหนื่อยแล้วทำงานแบบขอไปที ไม่ละเลยรายละเอียดเล็กน้อยที่เป็นจุดสำคัญให้งานออกมาดี
ในวันสุดท้ายที่ถ่ายรูปกันเสร็จแล้ว ทุกท่านช่วยกันจัดสตูดิโอให้เข้าที่ เรียบร้อย กลับมาพร้อมสอนได้เหมือนเดิม

เมื่อจบงานคุณวัฒน์บอกว่า ได้ถ่ายรูปไปประมาณ 3,000 รูป เป็นจำนวนที่มากสุดที่เคยทำไว้เลย ส่วนคุณเอ๋และคุณต้น บอกว่าถึงแม้จะถ่ายรูปเสร็จ แต่งานเราเพิ่งแล้วเสร็จไป 40% ยังต้องประกอบร่าง จัดหน้า ทบทวนปรับแต่งอีกมาก

ณ ปัจจุบัน งานคืบหน้าไปมาก งานหลักตอนนี้อยู่ที่ editor, sub-editor และ proof reader รวมถึง art director เพื่อปิดงานให้เสร็จ และ คุณเอ๋จึงให้พิมพ์งานออกมาในกระดาษเพื่อให้หลินอ่านรอบสุดท้าย เผื่อมีที่ต้องปรับอีกครั้ง ก่อนส่งงานเข้าโรงพิมพ์

จำนวนหน้าที่เราเคยประเมินกันไว้ มีเพิ่มขึ้นอีก 48 หน้า ทำให้ราคาที่เคยเช็คกับโรงงานเมื่อปีที่แล้ว ปรับเพิ่มขึ้น รวมถึงต้นทุนกระดาษก็เปลี่ยนแปลงด้วย (พูดถึงกระดาษ เราเลือกกระดาษนอกอย่างดี ที่อ่านสบายตา ไม่สะท้อนแสง)

หลินรู้สึกทึ่งกับระบบการทำหนังสือ ที่กว่าจะได้เล่มที่สมบูรณ์ออกมา ต้องทำงานกันหลายฝ่าย เป็นประสบการณ์ที่ดีมากครั้งหนึ่งในชีวิตของหลิน จึงเขียนบันทึกไว้เพราะ อยากจะขอบคุณทุกท่านที่มีส่วนร่วมในการทำ “หนังสือชุดนี้” มีอีกหลายท่านที่ทำงานเบื้องหลังและไม่ได้เอ่ยชื่อไว้ รวมถึง เพื่อนพี่น้องที่หลินปรึกษาในระหว่างเส้นทางนี้ด้วย

หลินและสามี ขอขอบพระคุณทุกท่านที่ได้เอ่ยถึงในบทความนี้ มีความสุขมาก ๆ ที่ได้ร่วมงานด้วยกัน
และ ขอขอบคุณท่านที่ไม่ได้เอ่ยชื่อด้วยนะคะ

แทนที่จะพูดว่า หนังสือเล่มนี้ แต่เป็น หนังสือชุดนี้ ?
เพราะ จากจำนวนหน้าที่มากมาย ทำให้เราต้องจัดทำเป็น 1 ชุด 2 เล่ม แยกเป็น ทฤษฏี และ สูตรขนมปัง

เร็ว ๆ นี้ จะเริ่มเปิดให้จอง ทุกท่านจะได้เห็นชื่อหนังสือ กล่อง หน้าปกของทั้งสองเล่ม และ มีเนื้อหาภายในให้ดูผ่านตาแบบเร็ว ๆ กันด้วยค่ะ และ หากทุกอย่างเป็นไปตามแผนเราคงได้จัดส่งกันในเดือนกรกฎาคม

ขอปิดท้าย เป็นรูปภาพชุดสุดท้ายที่เราได้ ในวันที่ 11 ของการถ่ายทำ

3 thoughts on “Book Journey

Leave a Reply